24 เมษายน 2559

ภูเขา วัด ทะเล เมืองประวัติศาสตร์.... เกาหลีใต้ ตอนที่ 1

. ปฐมบท กรุงโซลกับภูขา

                ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตรงไหน ในเกาหลีใต้ ลองหันซ้าย แลขวา ต้องได้เห็นภูเขา....
                คำกล่าวนั้นปรากฏในหนังสือเล่มหนึ่ง และไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริงเลย  ขณะที่เดินก้าวออกจากสถานีรถไฟฟ้าเมียงดง (Myeong-dong) ย่านชอปปี้งดังของกรุงโซล ภาพปรากฏที่เห็นเบื้องหน้าคือหมู่ตึกแน่นหนาด้วยผู้คน และรถรา ไม่น่าแปลกใจอะไร  ย่านจับจ่ายใช้สอยที่ไหนในเมืองใหญ่ของโลก ล้วนเป็นแบบนี้ทั้งสิ้น  แต่เมื่อหันมองไปอีกด้าน  พื้นที่ถนนลาดเอียงขึ้นเป็นเนินสูง  อาคารก่อสร้าง เบาบาง และที่สำคัญแลเห็นภูเขาที่อยู่ด้านหลังลิบ ๆ  ที่พักที่จองไว้ล่วงหน้าอยู่ ณ บริเวณนั้น   ตีนเขาในเมืองโซล
                นั่นเป็นก้าวแรกที่พ้นจากรถไฟใต้ดินในกรุงโซล
                ก้าวที่สองจากรถไฟใต้ดินกรุงโซลอีกครั้ง  เพื่อตรงไปยังพระราชวัง เคียงบ๊อก (Gyeongbokgung)  พระราชวังที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของราชวงศ์โชซอนที่ปกครองประเทศเกาหลีเป็นราชวงศ์สุดท้าย  ดอกอาซาเลียสีชมพูเข้มสดแย้มต้อนรับ ดึงดูดสายตาให้มองตลอดขณะเดินขึ้นบันไดที่เชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
                ดอกอะไรหนอ ??  ถามกับตนเอง... ท้องฟ้าสีเข้ม กับดอกสีสด.... จนเข้าไปใกล้ จึงเห็นรายละเอียดของดอกที่บานหนาแน่น.... ดอกอาซาเลียนั่นเอง

                เดินไปตามทาง กระทั่งถึงประตูทางเข้าพระราชวัง.... เผยโฉมอาคารแรกโอ่อ่าให้เห็น แต่ที่สำคัญเบื้องหลังนี่สิ.... ภูเขา !!




                เพียงแค่วันแรกในเกาหลีใต้ ฉันเผชิญหน้ากับภูเขาสองครั้งสองคราว
                ตามเส้นทางการเดินทางที่วางไว้คร่าว ๆ   เมื่อละจากกรุงโซล ตั้งใจมุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน  (Soraksan) นั่นเป็นความตั้งใจที่จะเดินทางไปหาขุนเขา แต่นี่ในกรุงโซลแท้ ๆ  ยังไม่ทันได้เรียกร้องหาภูเขาสักนิด แต่ภูเขาก็โผล่ทักทายไม่หยุดไม่หย่อน
                ภูมิประเทศของกรุงโซลนี่มันยังไงนะ.... ภาพเมืองสมัยใหม่ที่วาดไว้ไม่ได้นึกถึงเขาใด ๆ เลย.... แต่นี่กลับเจอแต่เขา กับเขา
                การเดินทางเป็นอย่างนี้นี่เอง เหมือนการออกไปพบปะกับผู้คน  บางคนน่าสนใจเป็นทุนเดิม ทำให้มีแรงบันดาลใจหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเสียละเอียดยิบ  ครั้นได้พบปะ พูดคุย... บุคลิก นิสัย เหมือนที่รับรู้มาก่อนล่วงหน้า  ทำให้ยิ่งรัก ยิ่งชอบมากขึ้น  แต่นั่นแหล่ะ ร้อยทั้งร้อย....คิดว่ารู้จักดีแล้ว  ยังแอบมีอะไรซุกซ่อนให้แปลกใจอยู่ดี  กระทั่ง บางครั้ง ต้องแอบร้อง เฮ้ย...ในใจ  เสน่ห์ของการเดินทางอยู่ตรงนี้แหละ
                คนบางคนอีกเหมือนกัน เห็นแล้วไม่ชอบ ไม่อยากยุ่ง แต่พอได้พูดได้คุยอย่างเสียไม่ได้ กลับรู้สึกไม่เลวเลย บางคนถึงกลับเปลี่ยนเป็นชอบก็มี   แต่ที่ยิ่งพาลไม่ชอบเข้าไปใหญ่ก็มีเหมือนกัน
                 และสำหรับบางคนไม่ได้สนใจอะไรนักหนา แค่รู้จักจากคำร่ำลือ แต่พอได้เจอตัวจริง  กลับผิดคาด น่าสนใจ และน่าทำความรู้จักให้ดียิ่งขึ้น   ดูเหมือนกรุงโซลสำหรับฉันจะอยู่ในประเภทสุดท้าย
                การพบปะกับภูเขาในกรุงโซล เป็นจุดสะดุดแรกที่ทำให้ฉันสนใจเมืองนี้มากขึ้น เมื่อกางแผนที่ภูมิประเทศของกรุงโซลออกดู จึงพบว่ากรุงโซลอยู่ท่ามกลางขุนเขาดี ๆ นี่เอง
ขุนเขาที่โอบล้อมกรุงโซลทางทางทิศใต้ คือภูเขา  Namsan ที่ฉันพักอยู่
                ทางทิศเหนือคือ ภูเขา Bugaksan ที่อวดโฉมหลังพระราชวัง
                ทางทิศตะวันตกคือภูเขา Inwangsan
                และทางทิศตะวันออกคือภูเขา Naksan
                จึงไม่ต้องแปลกใจ หากเปิดดูข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโซลแล้วเจอเส้นทางเดินเขาแนะนำอยู่หลายเส้นทาง
                ภูเขานัมซาน (Namsan) อยู่ใกล้ที่พักนิดเดียว.... เช้า ๆ  ออกไปเดินเที่ยวเล่นสักหน่อยเป็นไร ไม่ได้มีจุดหมายที่บนยอดสูง หรือหอคอย N-seoul ที่ตั้งอยู่บนนั้น แค่อยากดื่มด่ำบรรยากาศของภูเขาที่อยู่ใกล้ที่พัก  เมื่อผ่านสถานี Cable Car จึงเมินเฉยต่อพาหนะทุนแรง ยังคงไปต่อด้วยสองเท้า  ถึงวัยจะเลยคำว่า หนุ่ม ๆ สาว ๆ ไปแล้ว  แต่ลุงกับป้าก็ยังอยากจะทดสอบ ความแข็งแรง และแข็งแกร่งของร่างกาย
                บรรยากาศบริเวณทางขึ้นเขานัมซานน่ารักเชียว  มีไม้ใหญ่ที่ใบเล็กละเอียดเขียวนุ่มให้ร่มเงาไปตลอดทาง..  แถมเดินไปได้หน่อยเดียวก็เจอลานแบดมินตันขนาดใหญ่ข้างทาง ให้ลุง ๆ ป้า ๆ ได้ออกกำลังกาย....ยืนมองด้วยความอิจฉา.... ถ้าฉันเป็นลุง ๆ ป้า ๆ แถวนี้  จะเดินมาเล่นแบดมินตันที่นี่ทุกวันเลยเชียว
                ริมทางถนนมีเส้นทางลัดเป็นทางบันไดตัดตรงขึ้นไปอยู่หลายเส้นทาง สุดท้าย ลองสุ่มเลือกเส้นทางหนึ่งที่ร่มรื่นเป็นพิเศษ แม้ทางจะลาดขึ้นเนินไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ชันจนเกินไป  แถมยังมีสีสันสด ๆ จากกลีบดอกอาซาเลียแต่งแต้ม สมคำร่ำลือที่ว่าดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นอาซาเลีย
                โผล่จากทางลัดขึ้นมาอีกที เจอทางถนนที่ทอดยาวไปด้านหน้า แต่คราวนี้ไม่ใช่ทางถนนสำหรับรถวิ่งแล้ว  แต่เป็นทางถนน ที่ปูด้วยวัสดุนุ่มเท้ายกให้คนครอบครอง  ฉนั้นจะเดิน จะวิ่ง ไม่มีรถกวนใจ  ทั้งระหว่างทาง ยังเอาอกเอาใจคนที่มาออกกำลังกาย โดยจัดให้มีลานกว้างสำหรับนั่งพักเป็นระยะ บางลานอยู่ในมุมที่เหมาะสม ก็กลายเป็นจุดชมวิวอาคารระฟ้าที่อยู่ด้านล่าง... ความพิเศษของเขาลูกนี้คงอยู่ตรงนี้ แนบชิดกับตัวเมืองที่วุ่นวาย เหมือนเดินออกจากบ้านไปหน้าปากซอยก็ถึงแล้ว
                ความเนียนละเมียดระหว่างทางปรากฏให้เห็น พรรณไม้เล็ก ๆ น้อย ๆ หลากหลายขึ้นแทรกแซมระหว่างทาง.... ไม่ปล่อยให้พื้นที่ครอบครองด้วยพืชเพียงไม่กี่ชนิด  ทางระบายน้ำริมถนนแทนที่จะเป็นท่อระบายน้ำธรรมดา กลับขุดเป็นทางน้ำ คล้ายเส้นทางน้ำธรรมชาติที่ไหลรินจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ กลายเป็นทางชุ่มน้ำสำหรับพืชพรรณเล็ก ๆ
                คุณลุงคุณป้าที่นี่ชอบเดิน.... เดินกันเป็นกลุ่ม  ฉับ ๆ แซงพวกฉันสองคน คนแล้ว คนเล่า รัฐบาลกับประชาชน ดูจะรู้อกรู้ใจกันดี  ชอบออกกำลังกาย ชอบเดินกันนัก ฉันทำที่ทางสวย ๆ ให้พวกเธอก็แล้วกัน....











               พื้นที่บริเวณภูเขานัมซาน ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ ตั้งแต่ปี ค.. 2009  มีการรื้อถอนตัวอาคารที่ตั้งอยู่รอบ ๆ ออกไป  เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น และปรับปรุงระบบบริการสาธารณะให้ประชาชนเข้าถึงพื้นที่ได้โดยสะดวก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และคนพิการ
                อืมม์..... ฉันชอบเมืองที่มีภูเขา... และต้นไม้เยอะ ๆ น่ะ....  หลังจากพบปะ พูดคุยกับกรุงโซลชั่วเวลาสั้น ๆ ... ฉันว่า... ฉันชอบเมืองนี้นะ... บอกใคร ๆ ที่ใกล้ตัว  พากันขมวดคิ้วกันใหญ่ วัยป้า ๆ อย่างฉันเนี่ยนะ ชอบกรุงโซล.....
              ทำไมต้องแปลกใจกันด้วย?   เมืองทันสมัยอย่างกรุงโซล ใช่ว่ามีแต่แหล่งช็อปปิ้งถูกใจวัยหนุ่ม วัยสาว ซะเมื่อไหร่ หากมีมุมที่สะท้อนให้เห็นทัศนะและแนวคิดในการพัฒนาเมืองให้เป็นสถานที่ที่น่าอยู่ ที่น่าสนใจ และถูกใจวัยป้า ๆ อย่างฉันเช่นกัน 

หมายเหตุ... ตีพิมพ์ในนิตยสารหญิงไทย

เกาหลีใต้ตอนที่ 2   ตอนที่ 3