18 ธันวาคม 2556

หิมาลายะตะวันออก ตอนที่ 2

2. สู่...ดาร์จีลิ่ง 

จากกาลิมปง สู่ ดาร์จีลิ่ง (Darjeeling) ระยะทาง 58 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง นั่นคงพอจินตนาการได้ว่า 'รถอินโนวา' พาหนะของพวกเราเคลื่อนไปได้อย่างช้าๆ เรื่อยๆ เพียงใด

ถนนสายเล็กที่นำสู่ดาร์จีลิ่ง คดโค้งชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝนสะท้อนเงาน้ำราวภาพวาด หมอกชื้นๆ ปกคลุมไม้เขียวที่ชอุ่มเสียจนสีเขียวแทบจะหยดหยาด เฟิร์นขนาดยักษ์ห้อยย้อยเยี่ยมหน้าออกมาทักทาย สลับด้วยบ้านหลังเล็กกะทัดรัด ที่บางช่วงบางจังหวะรวมกลุ่มกลายเป็นชุมชนขนาดย่อมๆ

สวย...สวยเสียจนนั่งกันไม่ติด โดยเฉพาะยามไม้ใหญ่กับเฟิร์นยักษ์ออกมายั่วเย้า ขนาดต้องเหลียวหลังหันกลับไปมองจนลับสายตา

สวย...สวยเสียจนไม้ต้น-ไม้ดอกที่กาลิมปงเป็นเพียงแค่เด็กอนุบาลหัดเดินเตาะแตะ

สวย...สวยเสียจนคณะเดินทาง 4 ชีวิตต้องหล่นคำว่า "สวย" ออกมาไม่ขาดปาก และพยายามเก็บบันทึกความงามนั้นไว้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แม้ว่าเมื่อเปิดดูอีกครั้ง จะสวยไม่ได้เท่าตาเห็นก็ตาม

ใกล้ถึงดาร์จีลิ่ง...ไร่ชา เริ่มปรากฏให้เห็น

ตื่นเต้น...ร่ำเรียนแต่เด็ก คุ้นหูกับชื่อเมืองดาร์จีลิ่ง เมืองบนที่สูงแห่งประเทศอินเดีย แหล่งปลูกชาชั้นดี มันเป็นเหมือนความฝัน เหมือนฟังเรื่องเล่ามหัศจรรย์ในช่วงหัวถึงหมอนยามค่ำคืน แล้วสถานที่ในเรื่องเล่านั้นก็มาปรากฏจริงอยู่เบื้องหน้า นี่แหละ...เหตุผลที่ฉันชอบการเดินทาง

ไร่ชาดาร์จีลิ่งริมทางเป็นแถวเป็นแนวไปจรดขอบฟ้า ดูสวยตรงปลูกกันบนเนินเขาเป็นลูกๆ หากเห็นแล้วก็มองผ่าน เสน่ห์ไม่ยักแรงเท่าไม้ใหญ่กับเฟิร์นยักษ์ที่ห้อยย้อยริมทาง





ไร่ชาระหว่างทาง

แล้วเราก็เข้าเขตชุมชน รางรถไฟเล็กๆ เลื้อยขนาบริมถนนผ่านหน้าบ้านผู้คนให้เห็น เล็กและแคบราวกับเป็นรางรถไฟเด็กเล่น นั่นล่ะ รางรถไฟ Toy Train ล่ะ.. รางรถไฟที่เชื่อมเมืองดาร์จีลิ่งกับพื้นที่ราบด้านล่าง

อืมม์...ยังไม่ทันได้โผล่เข้าตัวเมือง ก็ได้สัมผัสสองสิ่งเลื่องชื่อของดาร์จีลิ่งแล้ว ... ไร่ชากับรถไฟสายเด็กเล่น

เจ้ารางรถไฟ Toy Train นี่น่ารักน่าหยิกจริงๆ เดี๋ยวอยู่ทางซ้าย เดี๋ยววกมาทางขวา ขนาดของรางกว้างแค่ 2 ฟุต จินตนาการง่ายๆ นึกถึงไม้บรรทัดสองอันวางต่อกัน จะเห็นว่ารางแคบจริงๆ แล้วระหว่างทาง เจ้า Toy Train ก็แล่นสวนมาให้เห็น 

ขบวนรถไฟขนาดสั้นสีฟ้าที่มีเพียงสองโบกี้ เพิ่งจะเคยเห็นรถไฟแล่นผ่านบ้านเรือนผู้คนระยะประชิดก็คราวนี้ ชนิดถ้าเป็นคนก็แทบจะยืนเคียงกันแบบเนื้อแนบเนื้อ ดีที่ว่ารถไฟขบวนนี้แล่นช้า ระยะทางจากสถานี นิว จัยปุริ (New Jaipuri) ไปยังสถานีดาร์จีลิ่ง ระยะทาง 86 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางถึง 7 ชั่วโมงครึ่ง คิดดูแล้วกันว่าจะเคลื่อนตัวได้เชื่องช้าเพียงใด


แล้วรถก็แล่นผ่านสถานีรถไฟ กุม (Ghum) สถานีรถไฟที่ตั้งบนที่สูงเป็นลำดับสองของโลก คนขับรถชะลอความเร็ว ชี้ชวนให้พวกเราดูบรรยากาศภายในสถานี เมื่อได้เห็นชานชาลา เห็นผู้โดยสารที่นั่งรอแล้ว ช่วยตอกย้ำอีกครั้งว่า เจ้ารถไฟที่แล่นผ่านไปตะกี้เห็นเป็นขบวนสั้นๆ แคบๆ น่ะเป็นของจริงนะ แล้วก็เพิ่งจะแล่นไปจากสถานีนี้แหละ

พ้นจากสถานีรถไฟ 'กุม' ใกล้ถึงเมืองดาร์จีลิ่งเต็มที ความเป็นตัวเมืองเด่นชัดขึ้นจากความหนาแน่นของอาคารริมทาง ผู้คน และรถราที่ขวักไขว่ เห็นบรรยากาศแบบนี้แแต่เป็นเมืองใหญ่ทีเดียว เมืองใหญ่ท่ามกลางขุนเขา




 รถไฟขบวน Toy Train แล่นสวนระหว่างทางให้เห็น

สถานีรถไฟ 'กุม' สถานีรถไฟที่ตั้งบนที่สูงเป็นลำดับสองของโลก

3. จัตุรัสขายของที่โรแมนติกที่สุดในโลก
ดาร์จีลิ่งช่วงเวลาที่ไปเยือนราวกับเมืองในหุบเขาฝนโปรย ทั้งเมืองชุ่มฉ่ำด้วยละอองฝนและละอองหมอก เสื้อกันฝนที่ติดตัวไปด้วยได้ใช้งานตลอด จนกลายเป็นมนุษย์ตัวเขียวพลาสติกที่เดินไปไหนมาไหน คนดาร์จีลิ่งเหลียวหันมองตลอด

จัตุรัส ชอร์ราสต้า (Chowrasta) เป็นจัตุรัสกว้างริมไหล่เขา เป็นเสมือนจุดศูนย์รวมของตัวเมือง เต็มไปด้วยร้านขายของต่างๆ การเดินมุ่งสู่จัตุรัสเป็นการเดินขึ้นสู่ที่ลาดสูงที่ชันขึ้นทีละนิดทีละนิด ก่อนที่จะถึงที่ราบกว้าง ที่สามารถมองทอดสายตาไปได้ไกล กระทั่งเห็นเทือกเขาหิมาลายา... นั่นแหละ เสน่ห์ของจัตุรัสนี้ 

โดยเฉพาะยอดเขาสูงที่ชื่อว่า คันเชนจุงก้า (Kangchenjunga) เขาสูงอันดับ 3 ของโลก สามารถมองเห็นได้ลิบๆ จากที่นี่ คำโฆษณาชวนเชื่อจึงเรียกขานจัตุรัสแห่งนี้ว่า “The world famouse romantic mall” ก็จะมีห้างสรรพสินค้าที่ไหนเล่าที่ระหว่างเดินเลือกหาซื้อข้าวของจะได้รับไอเย็นฉ่ำสดจากธรรมชาติแท้ๆ แถมแกล้มด้วยการชมวิวเทือกเขาหิมาลายาไปด้วย 

แต่... “ฟ้าเดือนกรกฎามีโอกาสเปิดแค่ 1% เท่านั้น” ทุกวันที่ออกมาเดินเล่นที่จัตุรัสชอร์ราสต้าจึงไม่เคยได้เห็นเทือกเขาที่รายล้อม ท้องฟ้าทุกวันมัวซัวด้วยละอองหมอกและฝน แต่นั่นแหละ แม้ไม่มีเทือกเขาหิมาลายาให้เห็น ยังคงหมั่นที่จะมาเดินเล่นที่จัตุรัสแห่งนี้ทุกเช้าและเย็น นั่นคงเป็นเพราะบริเวณจัตุรัสแห่งนี้เป็นที่เปิดโล่ง ให้เห็นภาพชีวิตในมุมต่างๆ

เช้าแรกพลันที่ฟ้าสว่าง ฉันกับเพื่อนร่วมทางตรงดิ่งมาที่จัตุรัสแห่งนี้ หมอกลงหนาจัด ภาพที่ปรากฏรอบตัวจึงดูเลือนๆ นุ่มนวล ไม่น่าเชื่อว่าชาวดาร์จีลิ่งจำนวนมากตื่นกันแต่เช้า และที่ชวนให้แปลกใจยิ่งกว่า นั่นคือพวกเขาพากันออกมาวิ่งและเดินออกกำลังกายกันอย่างคึกคัก ด้านหลังจัตุรัสมีทางเดินเล็กๆ ที่วกอ้อมเนินเขาที่เรียกว่า Observation hill ก่อนย้อนกลับมาบรรจบที่จัตุรัสอีกครั้ง ระยะทางและบรรยากาศกำลังเหมาะที่จะเป็นเส้นทางสำหรับออกกำลังกายในยามเช้า

ทางเดินเล็กๆ มีรายละเอียดปลีกย่อยให้เดินเอื่อยๆ ชมมองไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ เซนต์ แอนดรูว์ (St. Andrew) สีเหลืองเข้มจัดตัดกับเนินหญ้าสีเขียว สาวๆ นุ่งส่าหรีเดินฉึบๆ เร็วๆ ออกกำลังกายผ่านเราไป กลุ่มลิงบนหลังคาบ้านที่บางตัวเยี่ยมหน้ามาทักทายถึงริมทาง ฐานออกกำลังกาย ป้ายรถเมล์ จุดนั่งชมวิว ศาลเทพเจ้าฮินดูที่มีคนหยุดแวะสวดภาวนา นั่นทำให้เพลินจนเดินวนกลับมายังจัตุรัสชอร์ราสต้าอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว

หมอกเริ่มจางหายไปบ้างแล้ว หยุดแวะนั่งพักเพื่อมองภาพชีวิตที่ผ่านไปมาอีกครั้ง เย็นวันก่อนหน้านี้ ได้เจอหนุ่มไทยกับสาวดาร์จีลิ่งคู่หนึ่ง หนุ่มใหญ่คนนั้นมาที่ดาร์จีลิ่งครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 18 ปี เจ้าตัวนับนิ้ว ก่อนสรุปว่า เป็นเวลาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว นั่นร้องเสียง ว้าว...จากพวกเรา เมื่อนึกว่า 30 ปีที่แล้วการเดินทางมายังที่นี่จะลำบากขนาดไหน แล้วมาได้อย่างไรเนี่ย ขณะที่เจ้าตัวทั้งคู่ก็ทำท่าว้าวบ้างว่า แล้วหน้าฝนแบบนี้พวกเรามาทำไมกัน

เจ้าตัวหวนรำลึก ก่อนบ่นเล็กๆ ว่า ณ เวลานั้น จัตุรัสแห่งนี้สวยกว่านี้มากนัก ร้านค้าไม่ได้หนาแน่นขนาดนี้ และมองไปทางไหนก็เห็นวิวได้รอบๆ นั่นคงเป็นอารมณ์โหยหาอดีต ในความรู้สึก...อดีตมักจะดีกว่า ณ เวลาปัจจุบันเสมอ... 

...แต่มีที่ไหนบ้างที่ไม่เปลี่ยนแปลง...

ต้นไม้ชอุ่มริมทาง


เมืองดาร์จีลิ่งขณะฝนพรำ

แผนที่เมืองดาร์จีลิ่งบนผนังตึกริมทาง
แผงขายของริมทาง

ศาลเจ้าฮินดูระหว่างทาง

ระหว่างทางมีฝูงลิงโผล่เยี่ยมหน้ามาทักทาย


โบสถ์เซนต์ แอนดรูว์

แล้วบางอย่างที่เคลื่อนผ่านไปมา ชวนให้รู้สึกสะดุดสนใจ ไม่ใช่ม้าที่มีคนจูงเดินวนไปมา เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว แต่เป็นประชากร หมา หมาของเมืองดาร์จีลิ่งมากมายจริงๆ ผ่านมาไม่ขาดสาย มีทั้งหมาเดี่ยว หมาคู่ หมากลุ่ม และหมามีเจ้าของ แล้วหมาเหล่านี้มารยาทดีเสียด้วย ไม่กวนผู้คน แล้วก็ดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาดีกันทั้งนั้น 

ไปๆ มาๆ น้องหมาเลยแย่งซีนผู้คน ณ จัตุรัสชอว์ราสต้าไปเสียอย่างนั้นล้ว ดาร์จีลิ่งไม่ใช่เมืองเล็กๆ เสียแล้ว


 มาคู่..ประชากรหมาของเมืองดาร์จีลิ่ง

มากลุ่ม...ประชากรหมาของเมืองดาร์จีลิ่ง

บอกแล้วว่าหมาที่นี่หน้าตาดี ๆ กันทั้งนั้น