ซาคาเทคัส (Zacatecas)
ซาคาเทคัสเป็นเมืองอาณานิคม
และเมืองเหมืองแร่
บรรยากาศความเป็นเมืองเหมืองแร่กรุ่นทั่วตัวเมือง
ฉันกับยูลีซื้อทัวร์เข้าไปชมเหมืองเก่า Mina El Eden ที่ต้องนั่งรถรางลงไปในอุโมงค์ระยะทางสั้น
ๆ เพื่อชมสภาพภายใน
ถ้าเมืองอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ เราเจอคนพื้นถิ่นที่น่ารัก
ที่ซาคาเทคัสเรากลับถูกคอกับนักท่องเที่ยวด้วยกันมากกว่า นอกจาก Octavid แล้ว ยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเมืองเอล ปาโซ
ที่เจอกันขณะเข้าไปเที่ยวในเหมืองรอบเดียวกัน
ไม่รู้เป็นเพราะความเป็นคนเอเชียที่ดูตัวเล็ก ๆ หน้าอ่อนเยาว์
หรือไงไม่ทราบ ท่าทางพวกนี้เอ็นดูฉันกับยูลีจัง…. ชวนเราพูดคุยตลอดเวลา
ทั้งเอื้อเฟื้อแปลคำอธิบายของคนนำทางท้องถิ่น ที่สาธยายความเป็นมาของเหมือง
อีเดนให้เราฟังเป็นภาษาอังกฤษ
ถึงแม้เหมืองจะไม่มีแร่ให้ขุดอีกต่อไป แต่ยังคงเป็นแหล่งทำเงินให้กับเมืองอยู่ดี คนงานในเหมืองเปลี่ยนกลายเป็นนักศึกษาที่มาทำอาชีพเป็นไกด์นำทาง ล่อที่ลากเกวียนเปลี่ยนเป็นรถรางนำนักท่องเที่ยวเข้าไปชมด้านใน
ชื่อของเหมืองที่เพราะพริ้ง
เป็นแหล่งสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศสเปน แต่สำหรับคนงานที่นี่แล้ว
ที่นี่เป็นนรกดี ๆ นี่เอง ในสมัยยุคอาณานิคม
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะส่งเด็กอายุสิบขวบลงไปทำงานข้างใน และคนงานเหล่านี้มีอายุได้ไม่เกิน
40 ปี
เส้นทางออกจากเหมืองมีรถกระเช้า Teleferico นำนักท่องเที่ยวไปอีกเนินเขาด้านหนึ่ง
บริเวณนั้น
มีโบสถ์ พิพิธภัณฑ์ และรูปปั้นคนสำคัญ แต่เวลานั้น กวาดตามองไปรอบ ๆ
ฉันกับยูลีตาพร่างพรายไปด้วยหินสวย ๆ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้า มาร้อยขายเป็นสร้อยคอ
สร้อยข้อมือเต็มไปหมด ทั้งยังมีเครื่องประดับที่ทำจากเงินและทองแดงอีก
สมกับเป็นเมืองเหมืองแร่จริง ๆ
ฉันกับยูลีเลยละความสนใจจากสถานที่เที่ยว หันไปชอบปิ้งตามประสาสาว ๆแทน
ราคาเครื่องประดับใส่เล่นเหล่านี้ถูกแสนถูก จนฉันกับยูลีขนซื้อกันมาคนละหลายเส้น
นอกจากเครื่องประดับสวย
ๆ ในราคาย่อมเยาชวนช้อปแล้ว ฉันยังไปติดใจงานฝีมือพื้นบ้านประเภทหนึ่งเข้า
ถ้วยลูกปัด !!! ให้ตายเถอะ เจ้าลูกปัดเม็ดเล็ก ๆ ที่เรียงรายประดิดประดอยเป็นลวดลวยต่าง
ๆ ด้านในถ้วยที่วางโชว์บนขาตั้ง แบบที่ใช้วางจานโชว์
สีสันจัดจ้าน สดสะดุดตากระทั่งมองผ่านไปแล้ว ต้องตวัดตากลับมามองอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ… คนเม็กซิกันนี่เวลาทำอะไรเขาใช้สีสันดุเดือดกันดีจริง ๆ
แว่บแรกที่เห็นสะดุดตา
จนต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง ต้องถามตัวเอง อะไรหว่า? ก่อนสาวเท้าก้าวเข้าไปประชิดก้มดูใกล้ ๆ
ตอนแรกฉันคิดว่าเจ้างานชิ้นนี้คงจะทำจากกะลามะพร้าวผ่าซีก
แล้วนำลูกปัดมาประดับตกแต่ง แต่ครั้นหยิบขึ้นมาดูต้องเปลี่ยนใจ
ไม่ใช่…
กะลามะพร้าวจะไม่บาง เรียบ และลื่นแบบนี้ นอกจากนี้เมื่อพลิกกลับดูด้านหลัง
ไม่มีรอยบุ๋มแบบที่กะลาควรต้องมี
น้ำเต้า…
ถ้วยลูกปัดนี้ทำจากน้ำเต้า และเป็นงานฝีมือพื้นบ้านของชาวอินเดียนเผ่า Huichol นั่นทำให้ฉันนึกถึงผลน้ำเต้าแห้งที่ชาวเขาบ้านเราเอามาประดับตกแต่งแขวนขายนักท่องเที่ยวทั้งผล
ฉันเองยังซื้อมาแขวนเล่นในห้องนอนอยู่หลายใบ
ชาวอินเดียนเผ่า Huichol ใช้ถ้วยลูกปัดในพิธีกรรมติดต่อกับพระเจ้า
โดยเชื่อว่าเมื่อพระเจ้าได้ทรงดื่มน้ำจากถ้วยน้ำเต้านี้แล้ว
จะเข้าใจสิ่งที่พวกเขาสวดอ้วนวอนมากยิ่งขึ้น
|
ฉันว่างานศิลปะพื้นบ้านมักมีรูปแบบ
และใช้วัสดุที่คล้ายคลึง
ฉันเคยซื้อเสื้อพื้นเมืองจากเม็กซิโกไปฝากเพื่อนที่เมืองไทย ไม่ยักมีใครคิดว่าของชิ้นนั้นข้ามน้ำข้ามทะเลไปตั้งไกล
กลับนึกกันว่าฉันซื้อมาจากเชียงใหม่ไปเสียฉิบ
เจ้าย่ามใบแดงที่ฉันหอบหิ้วจากเมืองไทยก็เช่นกัน
สะพายไปเรียนที่แคมปัส ไม่ยักเรียกความสนใจจากเพื่อนฝรั่ง
มีแต่นักเรียนจีนเข้ามาถามไถ่ว่า ฉันไปหาซื้อมาจากไหน เพราะเหมือนของชาวเขาที่บ้านเขาเป๊ะเลย
สุดท้าย
ฉันเดินเข้า ๆ ออก ๆ ตามร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้าน
กว่าจะได้ถ้วยลูกปัดถูกใจลายดอกไม้สีสวย ขนาดกะทัดรัด
ในราคาไม่สะเทือนกระเป๋ามาเป็นที่ระลึก 1 ชิ้น ยูลีไม่ยักจะสนใจ เจ้าหล่อนว่าถูกใจกับสร้อยคอ
กับสร้อยข้อมือที่ทำจากหินสีสวย ๆ มากกว่า
หลังจากกลับไปที่อเมริกาแล้ว
ใครถามไถ่เราเกี่ยวกับเมืองเมืองนี้ ว่าเป็นยังไงบ้าง เราได้แต่ยิ้มกระเป๋าแฟ้บ
พูดอ้อมแอ้มว่าเหมาะสำหรับชอบปิ้ง (แฮะ แฮะ)
ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ตอนที่ 4 ตอนที่ 5 ตอนที่ 6 ตอนที่ 7 ตอนที่ 8 ตอนที่ 9 ตอนที่ 10 ตอนที่ 11 ตอนที่ 12 ตอนที่ 13 ตอนที่ 14 ตอนที่ 15 ตอนที่ 16 ตอนที่ 17 บทส่งท้าย
Copyright ©2011 kanakacha.blogspot.com