1 มีนาคม 2555

เที่ยวเม็กซิโก ตอนที่ 8


แมนออฟลามันชา แมนออฟวานนาฮัวโต้
รู้จักดอนกีโฮเต้แมนออฟลามันชามั้ยคะยูลีไม่รู้จักคะ แต่ฉันรู้จักเพราะเคยอ่านบทละครเรื่องสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ที่คณะละครสองแปดนำมาแสดงเป็นละครเวที โดยแปลมาจากบทละครเรื่องดอน กีโฮเต้ แมนออฟลามันชา เขียนโดย เดล วาสเวอร์แมน นักเขียนบทละครชาวอเมริกัน  ซึ่งนำเรื่อง “El ingenioso hidalgo don Quijote de la Mancha” (สุภาพบุรุษเจ้าปัญญา ดอน กิโฮเต้ แห่งมานชา) ไปเขียนเป็นบทละครสำหรับออกอากาศทางโทรทัศน์มีความยาว 90 นาที ละครประสบความสำเร็จ  แต่วาสเซอร์แมน ยังไม่พอใจ เขารู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ กระทั่งมีคนเสนอว่าบทละครเรื่องนี้ ต้องทำเป็นละครเพลง เขาจึงได้ทำการเขียนใหม่ และนำออกแสดงที่โรงละครเฮาเวิร์ด เบย์ และประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ได้รับรางวัล ละครเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี 1966” จาก New York Drama Critics Award  สำหรับละครในภาคภาษาไทย  มีคุณศรัณยู วงศ์กระจ่าง และคุณจรัล มโนเพชรผลัดกันแสดงเป็นดอนกีโฮเต้ และมี นรินทร ณ บางช้าง เล่นเป็นอัลดอนซา สาวชาวนา
ฉันเจอะเจอดอนกีโฮเต้ขี่ม้านำหน้ามีซันโชคนรับใช้รูปร่างอ้วนเตี้ยขี่ลาตามหลังบนเสื้อยืดที่วางขายให้เห็นทั่วไปในเมืองวานนาฮัวโต้  เอ๊ะ! แล้วดอนกีโฮเต้ มาเกี่ยวข้องอะไรกับเมืองเมืองนี้ละ คนเขียนนายมิเกล  เด แซร์บานเตส (Miguel De Cervantes) ก็เป็นคนสเปน ไม่ใช่คนเม็กซิกันซะหน่อย แถมเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นในท้องเรื่องก็ไม่ได้เกิดในเม็กซิโกอีกแล้วมันยังไงกัน
จะหาคำตอบก็ต้องลุยถึงแหล่ง
งานศิลปะที่วางโชว์ในพิพิธภัณฑ์ ดอนกีโฮ้เต้ กับ ซันโช คนรับใช้

 เมืองวานนาฮัวโต้มีพิพิธภัณฑ์ดอนกีโฮเต้  (Quijote Iconographic Museum) เมื่อเช้าที่แวะไปเยือนพิพิธภัณฑ์มัมมี่นั้นเป็นความคิดของยูลี หากคราวนี้เป็นคิวฉันบ้าง ตะแรกยูลีก็ไม่สนใจพิพิธภัณฑ์นี้สักเท่าไหร่ แต่พอฟังฉันพูดถึงบ่อย ๆ แถมเห็นรูปสกรีนดอนกีโฮเต้ กับคนรับใช้บนเสื้อยืดที่วางขายให้เกลื่อน เจ้าหล่อนก็ชักเริ่มตื่นเต้นตาม จากแผนที่พิพิธภัณฑ์ดอนกีโฮเต้ตั้งอยู่แถวด้านหลังโรงละครฮวนเรซ เราเลยย้อนกลับไปตั้งต้นที่จตุรัสจาร์ดินอีกครั้ง และหลังจากเดินวนเวียนหาอยู่ไม่นานก็เจอพิพิธภัณฑ์จนได้
ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าไปก็เจอเข้ากับรูปปั้นศรีษะนายมิเกล เด แซร์บานเตส  และตัวละครในจินตนาการของเขาดอนกีโฮเต้ นั่งอ่านหนังสืออยู่บนศรีษะ เก๋เสียไม่มี

ภายในพิพิธภัณฑ์ แสดงงานศิลปะที่อุทิศให้กับตัวละครในบทประพันธ์เอกของมิเกล เด เซร์บาสเตสล้วน ๆ มีแต่เรื่องราวของดอนกีโฮเต้ และคนรับใช้เท่านั้น ทั้งภาพวาด งานแกะสลัด และรูปปั้นในอิริยาบทท่วงท่าต่าง ๆ โดยศิลปินจากหลากหลายประเทศ เป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่อุดมไปด้วยฝันของชายชราที่พฤติกรรมออกจะเพี้ยน ๆ ด้วยเชื่อว่าตนเป็นอัศวินที่ชื่อว่า ดอนกีโฮเต้แห่งลาแมนชา  คิดว่าโรงแรมธรรมดาเป็นปราสาท สาวชาวนาเป็นเจ้าหญิง และกังหันลมเป็นยักษ์ร้าย แต่นั่นแสดงให้เห็นถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ การฝันถึงสิ่งที่ดีงาม ที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นได้ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อับจนสิ้นไร้
สำหรับส่วนตัวฉันนั้นโปรดปรานภาพโปสเตอร์ใบหนึ่งที่บังเอิญเห็นติดอยู่ข้างผนังด้านหนึ่ง ไม่ได้อยู่ในส่วนบริเวณแสดงงานของพิพิธภัณฑ์ ภาพโปสเตอร์ดังกล่าวคล้ายเป็นภาพโฆษณาอะไรบางอย่าง ดอนกีโฮเต้ขี่จักรยานคันใหญ่ มีคนรับใช้ขี่จักรยานคันเล็กตามท้าย อัศวินสมัยโบราณ เมื่อหลงมาอยู่ในยุคปัจจุบันขี่จักรยานนี่แหละเหมาะเหม็งดี  ไม่เอาเปรียบสัตว์ แล้วก็ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก เสียดายแต่ว่าไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้มีแต่ความทรงจำที่เหลืออยู่ล้วน ๆ
มาถึงแหล่งแล้วยังไม่รู้ว่าพิพิธภัฑณ์ดอนกีโฮเต้มาตั้งอยู่ที่นี่ได้อย่างไรก็กระไรอยู่
ฉันกับยูลีพยายามกวาดสายตา เสาะหาเบาะแส หรืออะไรสักอย่างที่พอจะเป็นแหล่งข้อมูลให้ได้ แล้วเราก็เหลือบไปเห็นห้องทำงานแห่งหนึ่งภายในพิพิธภัณฑ์เปิดอยู่  ชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ในนั้น คาดเดาจากเครื่องแต่งกาย และลักษณะการวางท่าทีคงมีตำแหน่งสำคัญไม่เบาในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เลยขอเข้าไปคุยด้วย
คะไม่ต้องแปลกใจ ชายผู้นี้ไม่พูดภาษาอังกฤษเหมือนชาววานนาฮัวโต้ทั้งหลายที่เราเจอะเจอมาก่อนหน้านี้  แต่ภาษาไม่ใช่อุปสรรค เมื่อเข้าใจคำถามของฉันกับยูลีแล้ว เขาได้เขียนคำตอบข้อสงสัยของเราเป็นภาษาสเปนใส่ในกระดาษให้อย่างเต็มอกเต็มใจ เพื่อให้เราไปหาคนแปลให้ฟังในวันหลัง (ฉันบอกแล้วว่าคนเม็กซิกันน่ารักสุด ๆ )
จากคำอธิบายเป็นเพราะมีคนต้องการเผยแพร่วรรณกรรมโลกชิ้นเอกนี้ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายโดยทั่วไป จึงมีการมองหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับตัวละครเอกในเรื่องนี้ เมืองวานนาฮัวโต้ได้รับเลือก เพราะเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม และคนที่นี่ใช้ภาษาเดียวกับนักประพันธ์ นั่นคือภาษาสเปน
นอกจากที่นี่จะมีพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศเป็นพิเศษสำหรับตัวละคนเอกนามดอนกีโฮเต้แล้วยังมีเทศกาลที่จัดเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนตุลาคมชื่อว่า Cervantes Festival เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่มิเกล  เด แซร์บานเตสผู้ให้กำเนิดดอนกีโฮเต้
คืนวันนั้นเป็นคืนวันอาทิตย์  รอบ ๆ จตุรัสจาร์ดินเปลี่ยนเป็นจตุรัสการแสดง มีกลุ่มนักดนตรีได้ยึดจับจองพื้นที่ตามจุดต่าง ๆ แสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่  ซึ่งเปิดโอกาสเฉพาะคืนวันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์เท่านั้น นักแสดงนายหนึ่ง ต้อนผู้คนเข้าไปนั่งตรงบันไดหน้าโรงละครฮวนเรซ นับว่าเข้าท่า แปรบันไดทางขึ้นโรงละครเป็นที่นั่งชมการแสดง นักแสดงนายนี้แสดงละครใบ้ เราเลยหัวเราะเอิ้กอ้ากผสมโรงไปกับเขาได้
                หมดจากนักแสดงรายนี้ก็ผลัดเปลี่ยนเป็นคราวของกลุ่มนักดนตรีห้านายมาเล่นดนตรีสนุก ๆชักชวนให้นักท่องเที่ยวร้องตาม เล่นได้สักสี่ห้าเพลง ก็ชักชวนให้นักท่องเที่ยวเดินตามเป็นขบวน เหมือนขบวนแห่ ไปหยุดตามลานที่อยู่ใกล้ ๆ เราตามไปได้สักพักเห็นท่าไม่ค่อยดีเพราะมีคนเข้ามาขายไวน์ จริง ๆ แล้วขวดไวน์สวยมาก มีรูปดอนกีโฮเต้ด้วย แต่เราไม่กล้าลองและอยู่ต่อ เพราะกลัวจะมีคนเมาซึ่งจะเป็นอันตราย ค่ำคืนวันอาทิตย์ของเมืองแมนออฟลามันช่า จึงจบลงอย่างไม่ดึกนัก
 




Copyright ©2011 kanakacha.blogspot.com