หมายเหตุ..งานเขียนชิ้นนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอาทิตย์
๑.
ตึกแถวสี่เหลี่ยมรูปตัวแอลด้านหน้า อยู่ในสภาพที่ไม่น่าพร้อมใช้งานเอาเสียเลย กลิ่นสีฟุ้งกระจายจนแสบจมูก สีใหม่ที่ทาทับก่อให้เกิดริ้วสีใหม่บนสีเก่า คนงานสองสามคนหิ้วกระป๋องสีเดินผ่าน บางคนนั่งเก็บงานที่ระเบียง ฉันกับเพื่อนร่วมทางออกอาการลังเลเล็กน้อย อดไม่ได้ต้องชโงกกลับไปมองป้ายชื่อสถานที่อีกครั้ง... ไม่ผิดแน่ ที่นี่แหละ อีเมล์ตอบรับยืนยันการจองห้องพักที่ส่งกลับมา ระบุที่อยู่อย่างชัดเจน ในนั้นให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่พักเพิ่งได้รับการปรับปรุง?? แต่ด้วยสองตาที่เห็นกันซึ่งๆ หน้า อาคารที่ตั้งอยู่ด้านหน้าไม่ได้เพิ่งรับการปรับปรุงหรอก แต่กำลังปรับปรุงอยู่ชัด ๆ แล้วจะพักได้มั้ยเนี่ย??
ประตูกระจกห้องด้านข้างเปิดออก ปรากฏร่างหนุ่มใหญ่หุ่นกำลังพอท้วม ท่วงทีดีมีราศีให้พอคาดเดาได้ว่า เป็นเจ้าของกิจการแน่ ๆ หนุ่มใหญ่นั่นคงเห็นอาการลังเลของเราสองคนเลยชิงเปิดประตูออกมารับแขก
“ที่อีเมล์มาจองห้องพักใช่มั้ย... เข้ามา เข้ามา”
ท่าทียังคงลังเล
“ข้างบนพักได้” ส่งภาษามือชี้ไปยังชั้นสาม “ห้องข้างบนเรียบร้อยแล้ว”
เพื่อเป็นการยืนยัน เจ้าหน้าที่เด็กหนุ่มร่างผอมพาเราเดินขึ้นไปดูห้องพักบนชั้นสาม ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง มีห้องพักผุดโผล่ขึ้นมาสี่ห้องเป็นแบบของแถม และ... เด็กหนุ่มบอกกับเราขณะเปิดห้องพักให้ดู “เหลือห้องนี้เป็นห้องสุดท้าย”
ชะโงกหน้าโผล่เข้าไปกวาดตาสำรวจดูคร่าว ๆ สภาพห้องสมกับราคาไม่กี่ร้อยบาท แต่ที่แน่ ๆ นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียว มีเหตุจูงใจมากกว่านั้น เมื่อพยักหน้าตกลงรับข้อเสนอ และรับกุญแจห้องพักจากเด็กหนุ่ม ก็พร้อมที่จะเหวี่ยงสัมภาระทิ้งไว้ในห้อง กระโจนขึ้นกระไดขึ้นไปบนดาดฟ้าด้านบนทันที
ทันทีที่โผล่ร่างขึ้นไปบนดาดฟ้า..... ภาพทัชมาฮาลลิบ ๆ ก็ปรากฏให้เห็น ทั้งที่ตอนนั่งตุ๊ก ๆ อินเดียตะลุยเข้ามาตามทางถนนแคบ ๆ เห็นแต่ตึกแน่นระเกะระกะ นึกภาพไม่ออกสักนิดว่าเข้าใกล้ทัชมาฮาลแล้ว แต่เบื้องหน้า นัยน์ตามองตะลุยผ่านหลังคาดาดฟ้าสารพัดสี ไปหยุดที่หลังคาโดมสีขาว ทัชมาฮาลอยู่ใกล้แค่นี้จริง ๆ ด้วย และนี่เองคือเหตุผลหลักในการเลือกพักที่เกสท์เฮ้าท์แห่งนี้
๒.
เจ้าของเกสท์เฮ้าส์แจ้งข้อมูล..ทัชมาฮาลเปิดต้อนรับผู้มาเยือน 6 โมงเช้า ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และปิดการต้อนรับเวลาทุ่มครึ่ง เมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า ว้าว.... ฟังแล้วได้อารมณ์ดีจัง แต่นี่ไม่ใช้ถ้อยเล่น ๆ ประมาณเล่นลิ้นของเจ้าของเกสท์เฮ้าส์ หากเป็นถ้อยจริง ๆ ที่ในโบว์ชัวร์เอกสารท่องเที่ยวที่เป็นทางการของอินเดียก็ใช้ประโยคนี้เหมือนกัน
เจ้าของเกสท์เฮ้าส์แจ้งข้อมูล..ทัชมาฮาลเปิดต้อนรับผู้มาเยือน 6 โมงเช้า ในเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และปิดการต้อนรับเวลาทุ่มครึ่ง เมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า ว้าว.... ฟังแล้วได้อารมณ์ดีจัง แต่นี่ไม่ใช้ถ้อยเล่น ๆ ประมาณเล่นลิ้นของเจ้าของเกสท์เฮ้าส์ หากเป็นถ้อยจริง ๆ ที่ในโบว์ชัวร์เอกสารท่องเที่ยวที่เป็นทางการของอินเดียก็ใช้ประโยคนี้เหมือนกัน
ยังไม่รีบร้อนที่จะเข้าชมอนุสรณ์แห่งความรักสีขาวนวล ในเมื่อตกตอนเย็น และช่วงเช้าตรู่ ดาดฟ้าของเกสท์เฮ้าส์ที่นี่จะแปลงโฉมพื้นที่สี่เหลี่ยมธรรมดา เป็นภัตตาคารลอยฟ้า ใครใคร่นั่งกินอาหารเช้า อาหารเย็นอ้อยอิ่งแกล้มทัชเนิ่นนานแค่ไหนทำได้สบาย ตามใจฉัน
เย็นแรกที่อัครา ฉันกับเพื่อนร่วมทางจึงนั่งมองทัชตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก กระทั่งพระจันทร์เผยโฉม…. และเช้าแรกของอัคราเช่นกัน ทันทีที่ตื่นขึ้น วักน้ำล้างหน้าเป็นพิธี รีบโผล่พรวดขึ้นไปชมอนุสรณ์แห่งความรักก่อนใคร ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น กระทั่งท้องฟ้าเริ่มแดงฉาน แลเห็นทัชมาฮาลในแดดเช้าชัดตา
เวลาที่จำกัดในการเข้าชมทัชมาฮาลที่เริ่มตอนพระอาทิตย์ขึ้นและจบลงที่พระอาทิตย์ตกจึงไม่ใช่ข้อจำกัด ในเมื่อใคร่นึกอยากชมทัชเมื่อใด ก็แค่ก้าวขึ้นกระไดไปไม่กี่ขั้นก็ได้ยลแล้ว ทั้งยังได้เห็นภาพชีวิตจริง ๆ ในมุมสูงที่ดำเนินอยู่รอบ ๆ ลุงร่างท้วมส่งเสียงกู่ตะโกนเรียกนกพิราบฝูงมหึมาทุกเย็นให้ลงมากินอาหาร เสียงตะแกดี และดังกระหึ่ม จนน่าตกใจว่าจะตะโกนเรียกนกลงมาได้หมดท้องฟ้า แล้วนกที่อัคราก็เยอะซะด้วยสิ เด็ก ๆ นัยน์ตาโตแป๋วนั่งเล่นตามร้านค้า บ้างก็เดินไปมาตามทางถนนเวลาสบตาก็จะยิ้มโบกมือให้ สาว ๆ ในชุดสาหรี่สีสดเดินเข้าเดินออก วุ่นวายทำงานบ้านดูแลเด็ก ๆ บางทีก็ออกมาไล่ลิงตัวเล็ก ๆ ที่ปีนไต่ไปตามหลังคาดาดฟ้า หยิบโน่นนี่กินไปเรื่อย ขณะที่พวกผู้ชายทำงานนอกบ้าน ขายของ ขับรถ เสริฟอาหาร ... ยังไม่เห็นผู้หญิงทำงานนอกบ้านสักคน บนทางถนนแคบ ๆ ทั้งนักท่องเที่ยว เจ้าถิ่น ตำรวจ ปริมาณคละเคล้า เดินผ่านไปมา นาน ๆ ครั้ง มีวัวเดินผ่านมาร่วมสัญจรด้วยและมักจะ แผละ แผละ ปล่อยปุ๋ยสด ๆ ลงบนทางถนน ทำให้ภาพที่เห็นวุ่นวายไปทั้งเสียง และตลบอวลไปด้วยกลิ่น
๓.
แอบนึกวางแผนในใจว่าจะเทเวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ ในการเข้าชมทัชมาฮาล แต่แผนที่ว่าล้มพับไปโดยปริยายเมื่อรู้ว่า ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดเข้าไปข้างใน นั่นเป็นการจำกัดเวลาในการเข้าชมอย่างนุ่มนวล เพราะแต่ละคนคงไม่สามารถอยู่ได้นานเกินเวลากินอาหารอีกหนึ่งมื้อแน่ สำหรับเครื่องดื่ม..อย่าเพิ่งตกใจถึงไม่ให้นำเข้าไปแต่มีจัดเตรียมไว้ให้พร้อมคนละ 1 ขวด
ในที่สุด…. ก็ถึงเวลาที่ฉันจะได้เข้าไปเยือนอนุสรณ์แห่งความรัก อนุสรณ์สถานที่ฉันเห็นภาพตามสื่อต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่เด็กจนโต กระทั่งชินตาเสียที
บรรยากาศภายในทัชมาฮาล แตกต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง
ด้านนอก อึกทึกวุ่นวายเต็มไปด้วยความเคลื่อนไหว และกลิ่นอันอบอวล หากภายใน กลับสงบนิ่ง เป็นอีกอาณาเขตหนึ่ง ที่แม้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากมาย แต่จำนวนไม่น้อยเลือกที่จะจับกลุ่มนั่งนิ่ง ๆ ตามมุมต่าง ๆ และแน่นอนนัยน์ตาจับจ้องไปที่อาคารสีขาวหลังคาทรงโดม และเชื่อว่าหลายต่อหลายคนได้แอบมองคู่รักหลากหลายคู่ที่ยืนยิ้มสดชื่นเคียงข้างกันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก… ฉันไม่เคยเห็นสถานที่เที่ยวแห่งไหนมีคู่รักท่องเที่ยวเป็นคู่โดด ๆ มากเท่านี้เลย
ฉันกับเพื่อนร่วมทางเดินวนเวียนอยู่บริเวณรอบนอก บางครั้งก็นั่งจ่อมจมที่ม้านั่ง ชมทัชมาฮาลอย่างละเลียด ไม่เร่งรีบที่จะเข้าไปด้านใน ปฏิกริยาที่เกิดขึ้นคงคล้ายเด็กถือขนมแสนอร่อยในมือที่ค่อย ๆ ละเล็มทีละนิดราวกับเสียดายกลัวว่าของอร่อยในมือจะหมดเร็วเกินไป
เมื่อได้เห็นทัชมาฮาลชัด ๆ ใกล้ ๆ ตาแบบนี้ ฉันรู้สึกทัชมาฮาลเป็นเสมือนหญิงสาวผู้เรียบง่าย แต่มีบุคลิกที่งามสง่า ชวนเพ่งพิศ และยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่างามจับตา
ก็แค่อาคารหินอ่อนสีขาวที่ไม่ได้ตกแต่ง หรือสลักสเลาอะไรให้วิจิตรตระการ ถ้าไม่ใช่รูปทรง รูปลักษณ์ที่ช่างลงตัวสมบูรณ์แล้ว… จะงามจนหลายคนต้องนำไปพร่ำพรรณาหรอกหรือ
และเมื่อขึ้นไปบนทัชมาฮาล เข้าไปยังชั้นในสุดที่เป็นเพียงห้องแคบ ๆ และมืดจนแทบมองไม่เห็นอะไร ฉันค่อยตระหนักนึกขึ้นมาได้ว่า ที่นี่คือสุสาน… การมาเยือนทัชมาฮาลเป็นการมาเยือนสุสาน ทั้งยังเป็นสุสานของคนที่ไม่ได้รู้จัก หรือเกี่ยวข้องอันใดเลย… นอกจากการรับรู้ถึงตำนานความรักที่เล่าสืบต่อกันมา... ความงามของสถานที่ลวงเอาผู้มาเยือนอย่างฉันเกือบจะลืมสถานภาพที่แท้จริงของสถานที่นี้ไปเลยทีเดียว
๔.
แม้จะเทเวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ อยู่ที่ทัชมาฮาลไม่ได้ แต่ที่ป้อมแดง อัครา ฉันยังคงรู้สึกว่าไม่ได้ไปไหนห่างจากทัชมาฮาล
ป้อมแดง หรือ Agra Fort อยู่ห่างจากทัชมาฮาลไปประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นสถานที่เที่ยวของเมืองอีกแห่งที่เด่นรองลงมาจากทัชมาฮาล และเรื่องราวของที่นี่บางส่วนได้ผูกเกี่ยวข้องกับทัชมาฮาล เมื่อได้กลายเป็นสถานที่คุมขังพระเจ้าชาห์ ญะฮาน หลังจากที่ถูกพระโอรสจับกุมตัว และชิงราชบัลลังค์ไปครองแทน ด้วยเหตุผลที่ว่าบิดาหมดความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมืองแล้ว เพราะมัวแต่ใช้เวลาหมดสิ้นไปกับการสร้างสุสานให้กับมารดา ซึ่งใช้เวลาในการสร้างนานถึง 23 ปี และเมื่อเลือกได้ กษัตริย์ ชาห์ ญะฮานก็เลือกที่จะถูกคุมขังที่ป้อมแดงแห่งนี้ เพื่อจะได้ขึ้นไปบนหอคอยทอดพระเนตรอนุสรณ์สถานที่พระองค์สร้างให้พระมเหสี..พระนางมุมตัส มาฮาล ทุก ๆ วัน และอีก 7 ปีต่อมาจึงได้สวรรคต
๕.
ทัชมาฮาลตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา รถตุ๊ก ๆ ขับพาเราข้ามสะพานไม้เก่า ๆ ที่การจราจรวุ่นวายพิลึก ข้ามลำน้ำยมุนามายังอีกฝั่งด้านหนึ่ง
“Good View of Taj”
คนขับรถตุ๊ก ๆ บอกกับเรา ฉันไม่ใคร่สนใจนัก ด้วยแค่ได้นั่งรถตุ๊ก ๆ ฝ่าการจราจรที่วุ่นวาย ผ่านเข้าไปยังย่านการค้าอันจอแจ ได้เห็นภาพการดำเนินชีวิต ได้เห็นรถเข็นขายอาหารแปลกตา ได้ ผ่านศาลเจ้าแม่กาลีที่อยู่ใต้สะพาน กระทั่งขับข้ามฝั่งมาอีกด้าน ได้เห็นวิวสงบเงียบของย่านที่อยู่ห่างไกลออกไป ทั้งริมทางถนนหลายช่วงมีผ้าสีสด ๆ ปูเรียงบนพื้น นั่นไม่ได้เป็นการวางขายผ้า แต่เป็นการตากให้แห้งหลังผ่านการซักล้าง… ได้เห็นภาพต่าง ๆ เหล่านี้ฉันก็พอใจแล้ว Good View of Taj ที่คนขับประโคมเมื่อถึงจุดหมายปลายทางที่เขานำพาเราไป จึงไม่ใส่ใจถือเอาเป็นสำคัญ และอีกอย่างฉันคิดว่า ฉันน่าจะได้เห็นทัช… อิ่มพอแล้ว
คนขับไปจอดรถตุ๊ก ๆ ตรงหน้าประตูทางเข้าที่บอกเราว่าเป็นสวน “เข้าไปข้างในจะได้เห็นทัชมาฮาล” เขาบอกกับเราอย่างนั้น สวนที่ว่าไม่ได้เป็นสวนสาธารณะ แต่เป็นสวนที่ต้องเสียเงินเข้าไปชม ฉันกับเพื่อนร่วมทางยืนมองชั่งใจอยู่ด้านนอกแล้วส่ายหน้า… สภาพที่เห็นไม่มีเค้าเลยว่าด้านในจะสวยคุ้มกับการเสียเงินเข้าไปชม เราหันไปส่งสัญญาณบอกคนขับรถให้รู้ว่าจะไม่เข้าไปข้างใน แต่จะขอเดินเล่นแถวนี้แทน
คนขับไม่ว่าอะไร แต่ชี้มือส่งสัญญาณให้เราเดินไปตามทางถนนด้านหน้า ฉันกับเพื่อนจึงลองเดินเข้าไป แรก ๆ คิดแต่ว่าเป็นการเดินเล่นฆ่าเวลา แต่ปรากฏว่าทางกลับพาเราไปสิ้นสุดที่ริมแม่น้ำยมุนา และฝั่งตรงกันข้ามเป็นที่ตั้งทัชมาฮาล ฉันกับเพื่อนยืนนิ่งอย่างคาดไม่ถึงอยู่ชั่วอึดใจ คนขับรถพูดถูก
“Good View of Taj”
และที่สำคัญเมื่อหันมองไปทางขวามือ ก็ได้เห็นป้อมแดงปรากฏอยู่ลิบ ๆ
ท่าเดินเอื่อย ๆ ของเราสองคนเปลี่ยนเป็นกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที เร่งฝีเท้าไปให้ติดริมน้ำมากที่สุด เพื่อนร่วมทางดึงกล้องที่คล้องข้างตัวไว้ขึ้นมาถือกระชับ และกดบันทึกภาพจนพอใจ
“เก็บภาพได้ดีกว่า ด้านหน้าอีก” พูดพึมเบา ๆ
ที่ว่าอย่างนั้น เพราะทัชมาฮาลที่เราเห็นจากด้านหน้า มีหลายจุดที่กำลังดำเนินการซ่อมแซม ขณะที่มองจากด้านหลังจะไม่เห็นภาพการซ่อมแซมนั้นกวนใจ และกวนเข้ามาในแผ่นภาพ
ฉันกับเพื่อนเดินวนชมทัชมาฮาลจากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำยมุนาอย่างอิ่มใจ…. อิ่มใจที่ได้มีโอกาสได้เห็นทัชมาฮาลในแทบจะทุกมุมมอง