กลับเป็นภาพก้อนหินใหญ่ๆ สองก้อนวางอยู่ท่ามกลางเส้นสายที่ฉันว่าเหมือนทะเล
ทางเข้าวัดแห่งนี้เป็นเพียงซุ้มประตูธรรมดา มีทางเดินเล็กๆ นำพาผ่านสระบัวขนาดใหญ่ออกดอกสีชมพูหวาน และเมื่อเข้าสู่เขตด้านใน จะได้พบกับความร่มรื่นของไม้ใหญ่ ทั้งพื้นผิวบริเวณหน้าดินแน่นเต็มไปด้วยมอสสีเขียวชื่นตา นับเป็นธรรมชาติชื่นฉ่ำ ท่ามกลางความร้อนระอุของเมืองเกียวโตในช่วงฤดูร้อนได้อย่างน่าอัศจรรย์
ความชื่นฉ่ำและแสนสงบนั้น ทำให้ฉันรู้สึกหลงรักสวนภายในเขตวัดแห่งนี้ขึ้นมาทันใด และนั่นส่งผลให้ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนด้านไหน เมื่อเจอม้านั่ง หรือก้อนหินขนาดกำลังดี จึงอดไม่ได้ที่จะอ้อยอิ่งนั่งทักทายไปเรื่อย เป็นการถ่วงเวลาน้อยๆ ให้ยืดยาวออกไป ในเมื่อโลกในนี้สงบ ร่มเย็น จนไม่อยากพ้นขอบรั้วกลับออกไป
ต้นเมเปิลที่ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปในสวน เป็นต้นไม้เจ้าเสน่ห์อย่างแท้จริง ใบของมันเล็กละเอียดเป็นแฉกสีเขียวอ่อน ยามสะท้อนกับแสงอาทิตย์ดึงดูดให้คนที่ผ่านไปมาอดไม่ได้ต้องหยุดยืนมอง บางกิ่งก้านบริเวณส่วนยอดเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ประหนึ่งจะอวดโอ่ว่านี่แค่ตัวอย่างเท่านั้น หากยามใดที่ใบทุกใบบนต้นพร้อมใจกันผลัดเปลี่ยนสี จะสวยงามขนาดไหน
ผ่านพ้นจากวิหารสีเขียวของธรรมชาติ เข้าสู่ตัววิหารที่แท้จริง วิหารภายในวัดเรียวอันจิ แสนเรียบง่าย สร้างจากแผ่นไม้ที่เปลือยเปล่า ด้านในมีระเบียงยาวเปิดโล่ง เมื่อมองเข้าไป ปรากฏคนทุกเพศ ทุกวัย ทั้งชาย และหญิง วัยรุ่น เด็ก และคนชรา และคงต้องผสมชาวต่างชาติ ต่างภาษาไปด้วย ต่างนั่งจับจองพื้นที่ในท่วงท่าแสนสบาย นัยน์ตาจับจ้องมองมุ่งไปยังเบื้องหน้า
.....สวนหิน.....
ภาพก้อนหินใหญ่สองก้อนที่ปรากฏบนแผนที่ มาจากสวนหินบริเวณนี้นี่เอง
พื้นที่ของสวนหินเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปูด้วยก้อนกรวดสีขาว มีการจัดวางก้อนหิน 15 ก้อน ไว้ในตำแหน่งต่างๆ ล้อมด้วยกลุ่มมอสสีเขียว และด้านหลังเป็นกำแพงดินเตี้ยๆ สีธรรมชาติ โอบล้อมทั้งสามด้านประหนึ่งเป็นกรอบของสวนหินอีกชั้นหนึ่ง
พื้นกรวดสีขาวได้รับการคราดให้เกิดลายเส้นในแนวขวางไปในทิศทางเดียวกัน เว้นแต่รอบๆ ก้อนหินที่จะวนเป็นวงกลม ทำให้คล้ายรอยน้ำที่กระเพื่อมรอบวัตถุ ไม่น่าเชื่อว่าแค่รอยคราดธรรมดา จะทำให้จินตนาการไปได้ขนาดนั้น
มหาสมุทร!! ก้อนหินทั้ง 15 ก้อนก็คือเกาะ
หรืออีกที กำแพงดินก็คือกรอบรูป เม็ดกรวดสีขาวที่เห็นก็คือผืนผ้าใบ โขดหินที่วางอยู่คือน้ำหมึกที่แตะแต้มบนผืนผ้าใบ
แม้จะไม่เข้าใจภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้านัก แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องน้อมรับ พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่กินพื้นที่เพียง 300 ตารางเมตร เป็นเพียงเม็ดกรวด และก้อนหินธรรมดาที่วางเรียงอยู่เบื้องหน้า สามารถดึงดูดให้รู้สึกถึงความเวิ้งว้าง ความไร้ที่สิ้นสุด และความสงบ ตัดกับบรรยากาศเบื้องหลังที่เห็นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม ภาพนั้นสามารถตรึงให้ฉันกับเพื่อนร่วมบ้านอยู่นิ่งๆ ณ จุดนั้นได้เป็นเวลานาน
เห็นสวนหินแบบเซนแล้วนึกถึงคำเก๋ๆ ที่ได้ยินบ่อยๆ Minimalism ....มีเท่าที่จำเป็น เรียบ ง่าย... แต่ขอโทษ ต้องดูดี และมีสไตล์
สวนในวัดเรียวอันจิให้ความรู้สึกประมาณนั้น มีแค่ หิน กรวด ทราย ที่มาวางประกอบกัน แต่ให้บรรยากาศเหมือนมองมหาสมุทรที่มีเกาะแก่งเล็กๆ น้อยๆ ได้ อย่างน่าทึ่ง
เห็นสวนเซนแล้วนึกถึงคำ Minimalism อาจจะไม่ถูกต้องนัก เพราะจริงๆ แล้วเจ้ากระแส minimalism นั้นได้รับอิทธิพลมาจากปรัชญาเซนต่างหาก นั่นคือองค์ประกอบให้มีน้อยๆ เข้าไว้ ให้เหลือ และเลือกแต่สิ่งที่จำเป็นจริงๆ หรือแก่นแท้ไว้เท่านั้น |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น